ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ อดีตแบ็กซ้ายทีมชาตินอร์เวย์ ออกโรงเปิดใจเรื่องจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทะเลาะกับ เคร็ก เบลลามี่ อดีตกองหน้าชื่อดัง จนถึงขั้นใช้ไม้กอล์ฟลงไม้ลงมือ สมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่คลั่งเกมบุกในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ไฮโลออนไลน์ สำหรับเหตุอื้อฉาวดังกล่าวเกิดขึ้นตอนที่ รีเซ่ กับ เบลลามี่ อยู่ร่วมทีมในช่วงระหว่างเข้าแค้มป์ฝึกซ้อมที่ประเทศโปรตุเกส เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2007 ก่อนที่ “เดอะ เร้ดส์” เตรียมเผชิญหน้ากับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
โดยมีอยู่คืนหนึ่งแข้ง “หงส์แดง” ออกไปเที่ยวกันอย่างหน่ำใจจนกระทั่ง เบลลามี่ พยายามจะลากตัว รีเซ่ ขึ้นไปร้องคาราโอเกะ แต่เจ้าตัวปฏิเสธจนนำไปสู่การทะเลากันอย่างรุนแรง และตามด้วยเหตุใช้ไม้กอล์ฟฟาด แข้งนอร์เวย์ หลังจากนั้นจากการเปิดเผยของ ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ สื่อท้องถิ่นชื่อดัง
อาร์เน่ รีเซ่ เปิดใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นยังไงมายังไง และเรื่องจริงทุกๆ กระเบียดนิ้วว่า “เราทุกคนได้รับอนุญาตให้ออกไปดินเนอร์ร่วมกันทั้งทีมในคืนสุดท้าย และผมจำได้ว่า ราฟา เบนิเตซ บอกกับเราว่าอนุญาตให้ดื่มเบียร์แค่แก้วเดียว แต่ตอนนั้นมีการดื่มมากกว่า 1 แก้ว”
“เราอยู่ภายในห้องคาราโอเกะส่วนตัวที่บาร์แห่งหนึ่ง เบลลามี่ ก็พูดขึ้นมาว่า -รีเซ่ นายขึ้นมาร้องเพลงหน่อย- ผมก็ตอบไปว่า -ไม่เอา ผมไม่ชอบร้องเพลง ผมสามารถทำอะไรก็ได้ แต่เรื่องร้องเพลงไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำ- เบลลามี่ ไม่ยังเซ้าซี้ตลอด ผมก็เลยบอกว่า -ไม่เอา ไม่ร้อง- แต่เขาดันมาหงุดหงิดใส่ผม”
“ตอนนั้นเขาหยิบไมโครโฟนแล้วก็พูดอีกครั้ง -รีเซ่ ขึ้นมาร้องเพลง- ผมยืนประจันหน้ากับเขาแล้วก็บอกว่าเขาชัดๆ ว่าผมไม่ร้อง และให้หยุดพูดซะที ผมออกจากห้อง และกลับไปที่ห้องนอนของผม ผมพักร่วมกับ แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ ตอนที่ผมได้ยินเสียงกุญแจห้องเปิดผมคิดว่าเป็น แดน กลับเข้าห้อง แต่พอไฟเปิด สิ่งต่อมาที่ผมเห็นก็คือไม้กอล์ฟฟาดเข้าที่สะโพกของผม”
“ผมกระโดดออกมาจากเตียง และยืนขึ้นทั้งๆ ที่ใส่แค่กางเกงในตัวเองขณะที่ เบลลามี่ ตะโกนด่าไม่หยุด เขาบอกว่า -พรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้าออกมาเจอกันที่ห้องข้า- ผมไปที่นั่นตอน 08.45 น. และรอคอยจนกระทั่ง 09.10 น. แต่เขาก็ไม่ออกมา”
“พอช่วงอาหารเช้านักเตะทุกคนหัวเราะกันระงม และตอนที่ เบลลามี่ เดินเข้ามาพวกเขาก็ปรบมือกันใหญ่ แน่นอนว่าผมคิดเกี่ยวกับเรื่องเอาคืน แต่สุดท้ายผมก็ไม่ทำแบบนั้น ทำไมนะเหรอ ? ผมไม่ใช่พวกนักสู้หรือนักมวย ผมกังวลว่าถ้าผมแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ที่แย่ๆ ออกไป สุดท้ายอาชีพของผมกับ ลิเวอร์พูล คงพังทลาย”
ขณะเดียวกัน รีเซ่ ยอมรับว่าสุดตื่นเต้นที่เห็น เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียนทีมรัก “ผมตื่นเต้นมากๆ ที่เขารับงานนี้ ผมชื่นชอบสไตล์ และความมุ่งมั่นทุ่มเทของเขา รวมทั้งแนวทางที่เขาแสดงออกมาให้เห็นเกี่ยวกับการมีอารมณ์ร่วมกับเกม เขาต้องการเวลาในการสร้างทีมตามแนวทางที่เขาต้องการ และให้นักเตะเล่นในแบบที่เขาอยากให้เล่น”
“ในฤดูกาลต่อไปผมคาดหวังที่จะได้เห็นพัฒนาการที่แท้จริงหลังจากที่เขามีเวลาในการทำงานร่วมกับทีมแบบเต็มๆ ในช่วงปรีซีซั่น ผมยังคงเป็นแฟนตัวยงของลิเวอร์พูล ผมใช้เวลา 7 ปีกับสโมสรแห่งนี้ และนั่นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ผมไม่มีทางลืมได้ ไม่มีสนามแห่งไหนที่ลงเล่นแล้วเจ๋งกว่าที่แอนฟิลด์อีกแล้ว และผมอยากจะกลับมาที่นี่เสมอ การได้สัมผัสป้าย “This is Anfield” (ดิส อิส แอนฟิลด์) มันทำให้ผมขนลุกเสมอ”
นอกจากนี้ อดีตสตาร์ลูกหนังชาวนอร์เวย์ เผยว่ายังรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจโบกมือลาถิ่นแอนฟิลด์ ไปเล่นให้ โรม่า ในปี 2008 หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ดึงตัว อันเดรีย ดอสเซน่า แบ็กซ้ายชาวอิตาเลียนมาร่วมทีม “เบนิเตซ ให้ผมเลือกว่าจะอยู่กับทีมแล้วสู้เพื่อตำแหน่งของผมต่อไปหรือไม่ แต่ผมรู้ว่า ดอสเซน่า คงจะได้เวลา 4-5 เดือนในการพิสูจน์ตัวเองในตำแหน่งที่ผมเล่น”
“ผมไม่อาจที่จะนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองเพื่อรอคอยโอกาสได้ดังนั้นผมจึงตัดสินใจย้ายทีม แต่ตอนที่ผมเห็นเขา (ดอสเซน่า) ไม่สามารถเล่นเข้ากับทีมได้ ผมเสียใจที่ไม่ยอมอดทนอยู่ต่อ ลิเวอร์พูล ต้องพบกับปัญหาในตำแหน่งแบ็กซ้ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจกับการต้องเห็นสิ่งนี้”
“(อัลเบร์โต้) โมเรโน่ เป็นแบ็กซ้ายในแบบของผม เขาชอบเล่นเกมบุก มีหลายคนพูดว่าเขาไม่ถนัดเกมรับ แต่นั่นไม่เป็นความจริงเลย ผมชื่นชอบ โมเรโน่ ผมเพิ่งไปทัวร์แอนฟิลด์เมื่อวันเสาร์ เขาใส่เสื้อหมายเลขเดียวกับผม ผมหวังว่าเขาจะคว้าแชมป์ร่วมกับทีมอย่างที่ผมเคยทำได้” รีเซ่ ร่ายยาว